top of page
ทับทิมสยาม

    ส้มโอทับทิมสยามสัญลักษณ์อันน่าภาคภูมิใจของชาวปากพนัง ขึ้นเป็นสินค้า otop 5ดาว และยังขึ้นเป็น GI (Geographical Indication) คือเป็นผลไม้ที่เจาะจงในทางภูมิศาสตร์แค่ที่ปากพนังเพราะปลูกที่อื่นรสชาติจะแตกต่างกัน เมื่อก่อนส้มโอชนิดนี้เป็นส้มโอพื้นเมืองบ้านบราโอ จังหวัดปัตตานี ชาวบ้านแถบนั้นจะเรียนกันว่า ส้มสีชมพู

 

มีลักษณะผลที่ใหญ่แต่มีรสชาติขมจึงไม่ค่อยได้รับความนิยม แต่เมื่อนำมาทดลองปลูกที่ตำบลแสงวิมาล อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช

 

ปรากฏว่ามีรสชาติที่หวานขึ้นแต่ก็ยังมีรสขมปะปนอยู่ จากนั้นก็ได้มีการปรับปรุงพันธ์ให้ดีขึ้นตามภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้วยวิธีการคัดเลือกกิ่งต้นที่มีรสชาติดีไม่ขม มาขยายพันธ์โดยการตอนกิ่ง การใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพ จนได้พันธ์ที่ดีตามที่ต้องการ และได้เรียกอีกชื่อว่า ทับทิมสยาม

 

เพราะมีเนื้อสีแดงเข้มเหมือนสีทับทิม รสชาติหวานจัด หอมติดจมูก เนื้อนุ่ม เปลือกบางสีเขียวเข้ม และจะมีขนอ่อนๆปลกคลุม ผลมีขนาดใหญ่เส้นรอบผลประมาน 16-22 นิ้ว หัวจีบ เมื่อจับเบาๆจะรู้สึกถึงความนุ่มของเปลือก ถ้าเก็บเกี่ยวหรือขนส่งไม่ดีอาจทำให้ช้ำได้ง่าย     

กลายเป็นผลไม้ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเมืองนครศรีธรรมราช จนถึงระดับประเทศ เนื่องจากได้รับความสนใจจากหลายประเทศเพื่อนบ้านในการรับซื้อ เช่น จีน ฮ่องกง กัมพูชา และเวียดนาม  โดยแบ่งจำหน่ายเป็นในประเทศ 40%

 

ส่งออกต่างประเทศ 60%  สร้างรายได้ให้จังหวัดประมาน 1000ล้านบาท/ปี ชาวบ้านจึงมีการดูแลเป็นพิเศษ และควบคุมคุณภาพของสินค้า

 

ปัจจุบันมีราคาที่สูงขึ้นถ้าหน้าสวนเฉลี่ยอยู่ที่ 150-180บาท/ลูก จากเดิม 120-150บาท/ลูก

 

ราคาจำหน่ายปลีก ไซซ์ใหญ่ ขนาด2.5 กิโลกรัม ราคา450-500บาท/ลูก แต่ตอนนี้ราคาสูงขึ้นอยู่ที่ 600-650บาท/ลูก

ปัจจุบันเกษตรกรหันมาปลูกส้มโอทับทิมสยามกันมากขึ้น เพราะใช้เวลาในการปลูกเพียง 3 ปี ก็เริ่มเก็บผลผลิตได้แล้ว และด้วยเป็นพื้นที่ ที่ทรัพยากรดินนั้นเอื้อต่อการปลูก มีแร่ธาตุในดินที่ดี จากเดิมที่ปลูกเพียง 200 ไร่ ผ่านไป 10 ปี เพิ่มขึ้นจากเดิมถึงกว่า 100 ไร่ เรียกได้ว่าเกือบเต็มพื้นที่อำเภอปากพนังเลยทีเดียว

 

เพื่อให้ได้ผลผลิตตามความต้องการของตลาด แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ส่งเสริมให้ผลไม้ทับทิมสยามนั้นตัวตัวสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี และเมื่อมีการพัฒนา รักษาคุณภาพของทับทิมสยามให้คงอยู่ ก็จะสามารถตีตลาดทั้งในและนอกประเทศได้อย่างโดดเด่น

 

 

 

เรื่อง: นายศิริศักดิ์ นิยมเดชา 

bottom of page